จะมีงานมงคลแต่ละทีไม่ว่าจะเป็นพิธีเช้าที่ต้องมีพระสงฆ์มาร่วมพิธี ไหนจะเรื่องจุกจิกจิปาถะ..เรียกได้ว่าหากเป็นงานแต่งแรกของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ของบ่าวสาว หรือแขกผู้มาร่วมงานย่อมมีความกังวลถึงขั้นวิตก กลัวว่างานจะออกมาไม่เป็นอย่างที่ต้องการ …
อันดับแรกต้องบอกก่อนเลยว่า ในการจัดงานแต่ละครั้งเพื่อให้ตรงความต้องการเรามากที่สุดนั้น สิ่งสำคัญคือการทำเช็คลิสต์ว่าต้องเตรียมอะไร ลำดับขั้นตอนให้ละเอียดที่สุด แม้ว่าจะให้ทางผู้รับจ้างจัดงานไปแล้วนั้น ทางเจ้าภาพเองก็ควรจะต้องทำขึ้นมาไว้ด้วยอย่างน้อยเพื่อเป็นการรีเช็คว่าไม่ได้หลงลืมอะไรไป และควรเลือกผู้รับจ้างจัดงานที่มีความเป็นมืออาชีพมากพอ ดูตัวอย่าง ผลงานการจัดงานและศึกษาอย่างละเอียดว่าเขาเคยมีข้อผิดพลาดอะไรบ้างก่อนการตกลงจ้าง และเมื่อถึงวันงานต้องเตรียมรับมือและทำใจให้พร้อมกับสิ่งที่ (อาจ) เกิดขึ้น
1.พร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจะไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา
อาจมีความผิดพลาดบางประการไม่ว่าจะเป็นการจราจรที่ติดขัด สภาพอากาศ ที่ทำให้เวลาไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนด.. ทางออกที่ดีของปัญหานี้คือยิ้มรับมือ และทำความเข้าใจกับสภาพที่ไม่อาจควบคุมได้
2.ผู้จัดงานทำงานผิดพลาด สิ่งของไม่ครบตามที่กำหนด
สิ่งนี้เรียกได้ว่าอาจเป็นความผิดพลาดจากผู้รับจัดงานโดยตรง สิ่งหนึ่งที่เจ้าภาพควรมีคืออย่างพึ่งวิตก .. สติ!! ควรมาเป็นอันดับหนึ่งแล้วค่อยแก้ปัญหาเหล่านั้น ว่าจะมีอะไรมาอุดรอยความผิดพลาดนั้นได้อย่างไร
3.อย่าคาดหวังกับความเพอร์เฟ็ค
ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเพอร์เฟ็คเกิดขึ้นในงาน อันที่จริงแทบทุกงานจะต้องมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นอยู่พอประมาณ แต่ทั้งนี้หากเกิดอะไรที่ผิดพลาดไปเล็กน้อย..อย่าเพิ่งใส่ใจ แต่ให้เรา ผู้เป็นเจ้าภาพรับแขกไปด้วยความยินดี ..ส่วนเรื่องอะไรที่ผิดพลาด ณ จุดไหนนั้น ค่อยมาเคลียกันทีหลัง.. อย่าเพิ่งระเบิดอารมณ์ไปละ นับ 1-100 ไว้ให้ดีแล้วค่อยจัดการ กันทีหลัง ระหว่างนั้นให้ความร่วมมือกับผู้จัดการ จับมือกันแก้ปัญหาจะเป็นการดีที่สุด
4.เรื่องค่าใช้จ่าย
บอกเลยว่า ส่วนใหญ่.. จะมีการบานปลายจากค่าใช้จ่ายที่ได้ตกลงกันไว้ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราว่าต้องเคลียให้ชัดเจน.. หากมีอะไรเพิ่มเติมต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ หรือจะมีทางออกไหนสำหรับงานแต่งงานที่มีงบประมาณจำกัด ..ซึ่งตรงนี้บอกเลยว่าต้องชัดเจนทั้งสองฝ่าย เพื่อความลงตัวของงาน