มีงานแต่งทีไรปวดหัวไม่แพ้เรื่องชุดก็เรื่องเงินใส่ซองเนี่ยแหละ เป็นปัญหาโลกแตกจนมีคนตั้งกระทู้พันทิปกันให้เห็นทุกวันกับเรื่องเงินใส่ซองแต่งงานเนี่ย ใส่มากไปเราก็ลำบาก ใส่น้อยไปก็โดนเจ้าภาพโกรธ จริงๆ ก็อยากจะบอกนะว่าอยากโกรธก็โกรธไปเถอะย่ะ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะยังต้องเจอหน้ามีปฏิสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นในสังคมหรือที่ทำงาน ก็เลยต้องระวังๆ ไว้บ้างเป็นยอดดี
แล้วจะหลีกเลี่ยงวิกฤตเหล่านี้ได้อย่างไร แบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น เรามีเคล็ดลับมาแนะนำกันให้ไปประยุกต์ใช้ตามสะดวกกันเลย!
1. กำหนดขั้นต่ำจากเงินเดือนของตัวเอง
ในสังคมคนทำงาน ตำแหน่งหน้าที่และรายได้ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ดังนั้นจะให้ใส่ซองเท่ากันก็คงทำไม่ได้ ถ้าแบบนั้นลองคิดเงินใส่ซองเป็นเปอร์เซนต์ของเงินเดือนของคุณก็ได้ อาจจะเริ่มต้นที่ 3-5% แบบนี้ก็ถือว่าสบายใจ สบายกระเป๋ากันไป ไว้ถ้ามีตำแหน่งใหญ่โต รายได้มากขึ้นล่ะก็ค่อยว่ากันอีกที แต่ถึงตอนนั้นจริงๆ เราว่าคุณก็น่าจะรู้แล้วล่ะว่าควรใส่ไปเท่าไหร่
2. เพิ่มลดตามความสนิท
เพราะเงินใส่ซองไม่ใช่แค่เรื่องของมารยาทหรือธรรมเนียม แต่ยังแสดงถึงน้ำใจและความห่วงใยด้วย พูดตรงๆ แบบไม่ลำเอียง งานแต่งของคนที่สนิทเราจะให้มากกว่าคนอื่นก็ไม่แปลก เพราะใจของเราอยากช่วยเหลือเขาจริงๆ ส่วนคนไม่สนิทหรือคนรู้จัก ถ้าช่วงนั้นไม่ติดขัดอะไรจริงๆ ก็ให้ตามปกติไป อาจจะฟังดูใจร้ายไปหน่อย แต่เจ้าภาพบางคนอาจจะยังจำชื่อคุณไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ก็ช่างปะไร เรามาแสดงความยินดีนี่นา
3. เพิ่มตามความหรูหราของงาน
อันนี้พิเศษหน่อย ถ้างานไหนที่หรูหราอลังการดาวล้านดวง ก็กลั้นใจเพิ่มเงินในซองให้มากขึ้นอีกหน่อย แล้วงานที่ไม่หรูธรรมดาต้องลดมั้ย? คำตอบก็คือ ไม่ต้องลดเงินในซองนะ ให้ไปเท่าเดิมนั่นแหละ จริงๆ ไม่อยากให้คิดว่างานแบบนี้ จ่ายเท่านี้ กินเท่านี้ ถึงจะคุ้ม แต่อยากให้คิดว่าเงินใส่ซองนี่แสดงถึงน้ำใจและความห่วงใยต่อเจ้าภาพ ว่าเราอยากช่วยเหลือเขาเท่ากำลังที่มีจ้า
และสำหรับสาวๆ ที่กำลังปวดหัวเรื่องค่าใช้จ่ายงานแต่งงานว่า ชุดก็ต้องซื้อ หน้าก็ต้องแต่ง รองเท้าก็ต้องหาใหม้ เราอยากจะบอกว่า Rentsheep มีบริการให้เช่าชุดราตรี ชุดออกงาน ในราคาถูกแต่คุณภาพสูงลิ่ว ทำให้มีเงินเหลือมาใส่ซองงานแต่งแบบชิลๆ ลองดูแบบชุดก็ได้นะ มีมากมายหลายสีให้เลือกเต็มไปหมดเลยจ้า
